Home / Product knowledge

หน้าฝนใกล้เข้ามาแล้ว เรามาเตรียมรถให้พร้อมรับหน้าฝนกันดีกว่า

"ขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัยช่วงหน้าฝน"

"หัวเทียน NGK ตัวเลือกอันดับ 1 ของโรงงานผู้ผลิตและทีมแข่งชั้นนำระดับโลก"

 

1.เตรียมพร้อมรถคู่ใจ

หัวเทียน เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่สำคัญสำหรับเดิน ไม่ว่าจะในช่วงฤดูไหน เพราะคงไม่ดีแน่หากรถไม่สามารถสตาร์ทติดก่อนจะเดินทาง หรือระหว่างการเดินทาง

ดังนั้น ก่อนเดินทางทุกครั้ง ควรตรวจเช็คหัวเทียนให้อยู่ในสภาพปกติอยู่เสมอ ซึ่งระยะการตรวจเช็คที่แนะนำคือ 3,000-5,000 กิโลเมตร (สำหรับหัวเทียนชนิดปกติ) หรือ ทุกๆการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

ยาง เช็คความลึกดอกยางว่าเหลือความลึกยางเท่าไร การเช็คเบื้องต้นง่ายๆ ให้สังเกตุดูปุ่มสะพานยาง หากหน้ายางสึกจนถึงปุ่มสะพานยาง แสดงว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่ และอย่าลืมเติมลมยางให้เหมาะสมตามคำแนะนำจากบริษัทผู้ผลิตรถ

เบรก การหยุดรถเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เช็คน้ำมันเบรก ผ้าเบรก และกลไกทั้งหมดว่าทำงานได้เป็นปกติหรือไม่

ของเหลว ไม่มีรอยรั่วซึม เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเปลี่ยนถ่าย โดยเฉพาะหน้าฝน ตรวจสอบว่าน้ำมันเครื่องเปลี่ยนสีหรือไม่ หากมีสีขาวขุ่นผสมแสดงว่ามีน้ำปนเปื้อน ต้องรีบเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่

ระบบไฟ เช็คอุปกรณ์ให้ความสว่างและสัญญาณไฟทุกชิ้นว่าทำงานได้อย่างปกติหรือไม่

อุปกรณ์อื่นๆ เช่น กรองอากาศ ฯลฯ ต้องอยู่ในสภาพปกติ น๊อตต่างๆ ต้องขันให้แน่น

2.เครื่องแต่งกายต้องครบ

การขับขี่มอเตอร์ไซค์โดยทั่วไป เราควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเบื้องต้นให้ครบอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นหมวกกันน็อค ถุงมือ รองเท้า เสื้อแจ็คเก็ต และกางเกงขายาว ซึ่งการขี่รถมอเตอร์ไซค์ในช่วงหน้าฝน เราจำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์เหล่านี้ให้ครบเช่นเดียวกัน แต่อาจต้องใส่ใจในรายละเอียดอุปกรณ์มากกว่าเดิม ได้แก่

-หมวกกันน็อค จำเป็นต้องเลือกหมวกแบบปิดหน้าที่มีวินด์ชิลด์ windshield เพื่อกันฝนสาดเข้าใบหน้าและดวงตาเวลาขับขี่ สเปรย์ฉีดที่ชิลด์ ให้น้ำฝนไม่เกาะก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน

-อุปกรณ์การขับขี่ ควรเลือกแบบกันน้ำทั้งเสื้อผ้า รองเท้า และแจ็คเก็ต ซึ่งทำให้การขับขี่ของเราสะดวกสบายเวลาฝนตก เสื้อผ้าไม่เปียกน้ำ ตัวเราไม่เปียกชื้น ทั้งนี้ การสวมใส่เสื้อผ้าเปียกน้ำและยังฝืนขับขี่ ทำให้เกิดร่างกายหนาวเย็นและชาด้าน ส่งผลให้ตอบสนองการขับขี่ไม่ทันท่วงที

-ชุดกันฝน บางครั้งฝนก็ตกมาแบบไม่ทันตั้งตัว มีเสื้อกันฝนสำรองไว้ใต้เบาะซักตัวก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเราได้ในยามฉุกเฉิน

  

3.เผื่อระยะเบรก เบรกตามปกติโดยเบรกหลังก่อนและตามด้วยเบรกหน้าเพื่อหยุดรถอย่างมีประสิทธิภาพ แต่อาจต้องเผื่อระยะการหยุดรถให้มากขึ้น เนื่องจากถนนลื่นทำให้รถต้องใช้ระยะหยุดรถที่ยาวมากขึ้น เพิ่มสัดส่วนการใช้เบรกหน้าและหลังเช่น 60-40%

 

4.ลดความเร็ว ใช้ความเร็วลดลงเมื่อต้องขี่ฝ่าฝน เนื่องจากฟิล์มน้ำบนผิวถนนทำให้ยางรถเกาะถนนน้อยลง หรือไม่สัมผัสกับผิวถนนและยังเป็นอุปสรรคต่อการเข้าโค้ง เลือกใช้ความเร็วต่ำลงเพื่อความปลอดภัยของตนเองนะครับ

5.หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำ

ใต้แอ่งน้ำที่ราบเรียบ อาจมีหลุมบ่อขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ได้ ยิ่งเป็นถนนหนทางในประเทศไทยแล้วไม่มีอะไร การันตีว่าใต้ผิวน้ำนั้นจะมีอะไรซ่อนอยู่ เลือกขี่อ้อมนิดหน่อยเพื่อความปลอดภัยของตนเองกันดีกว่า

 

6.ลุยน้ำห้ามดับเครื่อง บางครั้งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำขังได้ เทคนิคเบื้องต้นคือเลือกใช้เกียร์ต่ำและรักษาความเร็วให้คงที่ตอนลุยน้ำ เพื่อให้แรงดันจากท่อไอเสียดันน้ำออกมาและห้ามดับเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด! แต่หากระดับน้ำสูงกว่า 1 ฟุตไปแล้ว แนะนำว่าอย่าลุยน้ำเลยดีกว่า ยกเว้นมีรถมอเตอร์ไซค์แบบแอดเวนเจอร์ทัวริ่ง ลุยได้ลุยไปเลย!

 

และที่สำคัญการมีสติและสมาธิจดจ่ออยู่กับการขับขี่ตลอดเวลานับเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทุกครั้ง

มั่นใจในทุกเส้นทางไปกับเรา ด้วย "หัวเทียนเอ็นจีเค"