ใครที่ใช้รถครบระยะแต่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องไม่ตรงเวลาหรือไม่เคยเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้กับเจ้าลูกรักคันโปรดเลยรู้หรือไม่ว่าปัญหาใหญ่กำลังตามมา…

ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์สึกหรอ

เวลาที่เครื่องยนต์ทำงานจะมีเศษโลหะ, ฝุ่นละออง, คราบเขม่าคาร์บอนออกมาปะปนและหมุนเวียนอยู่ในเครื่องยนต์มีผลทำให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอ การไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องจะทำให้เครื่องยนต์ไม่มีตัวช่วยลดการเสียดสีส่งผลให้สึกหรอมากขึ้นเรื่อย ๆ ขาดประสิทธิภาพในการทำงานและเมื่อน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพลงผลเสียต่าง ๆ จะตามมา

เครื่องยนต์เสียงดัง กินน้ำมันมากขึ้น

เมื่อประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องลดลงส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักมากขึ้น กินน้ำมันมากขึ้น และเสียงดังขึ้นอีกด้วยบางทีอัตราความเร็วอาจจะเท่าเดิมแต่หากยังฝืนใช้งานต่อไปจะทำให้เครื่องยนต์พังในที่สุด

มลพิษมากขึ้น

การทำงานหนักของเครื่องยนต์ที่ขาดประสิทธิภาพทำให้เกิดคราบเกาะตามชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์และผนังห้องเผาไหม้กลายเป็นมลพิษออกมาทางท่อไอเสียเมื่อมีอัตราเร่งเยอะขึ้นก็ยิ่งส่งผลให้มีการปล่อยมลพิษออกมามากขึ้น

ค่าซ่อมแพง

การไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องยนต์ลดลงเพราะขาดตัวช่วยลดการเสียดสี ทั้งการชำระล้างคราบก็ลดลงตามด้วย สิ่งสกปรกจึงเกาะติดภายในเครื่องยนต์ยิ่งรถของใครเลยกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมานานแล้วบอกได้เลยว่างานนี้เสียหายหลายบาทแน่ ๆ

Repsol ขอแนะนำเลยว่าผู้ใช้รถควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้เหมาะสมตามระยะการใช้งาน สำหรับน้ำมันเครื่อง Repsol แนะนำดังนี้

น้ำมันเกรดมาตรฐาน (Premium Technology) ระยะการใช้งาน 8,000-10,000 กิโลเมตร

น้ำมันเทคโนโลยีสังเคราะห์ (Synthetic Blended) ระยะการใช้งาน 10,000 - 15,000 กิโลเมตร

น้ำมันสังเคราะห์แท้ 100% (Fully Synthetic) ระยะการใช้งาน 15,000 - 20,000 กิโลเมตร