ใกล้ถึงวันหยุด หลายๆคนวางแผนจะขับรถไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และหน้าหนาวแบบนี้ คงไม่พลาดขับรถขึ้นเขาไปเที่ยวกันอย่างแน่นอน

.

แต่เคยสงสัยมั้ย ทำไมเราโดนรถคันหลังบีบแตรเวลาเลี้ยวโค้ง? หรือสวนกันตรงทางโค้ง รถอีกฝั่งบีบแตรทำไม?

.

รถไม่ได้บีบแตรเพราะรู้จักเรา หรือ เพื่อทำความเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ข้างทาง แต่บีบแตรเพื่อเป็นสัญญานเตือนรถที่กำลังลงจากเขามา

ที่เห็นว่าบีบแตรตรงศาล เพราะศาลหรือเจ้าที่ต่างๆ มักตั้งตามโค้งหรือไหล่เขา ซึ่งมักจะเป็นที่ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆนั่นเอง

ขับรถขึ้นหรือลงเขา “ควร” บีบแตรช่วงทางโค้งหักศอกทุกครั้ง เพื่อเตือนรถที่กำลังลงจากเขามาให้หยุดก่อน และให้รถทางขึ้นได้ขึ้นไปอย่างปลอดภัย

และสิ่งที่สำคัญอีกอย่าง คือ "การให้ทาง"

.

ทำไมต้องหยุดรถให้ขาขึ้นไปก่อน?

เพราะรถที่ขับขึ้นมา ต้องใช้กำลังเครื่องเร่งส่งรถให้ขึ้นทางลาดชันได้อย่างสะดวก และปลอดภัย ป้องกันรถลื่นไถลจากการไหลลงเขา

.

แล้วรถขาลงล่ะไม่หยุดได้ไหม?

ถ้ารถขาลงไม่หยุด รถขาขึ้นจะต้องจอดและต้องใช้กำลังเครื่องเร่งส่งใหม่ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพราะรถอาจไม่มีกำลังมากพอ เป็นเหตุให้ไหลลงเขาได้นั้นเอง

บางครั้งที่เห็นรถเปิดกระจกขณะขับรถ ไม่ใช่เพียงแค่ชมวิว หรือสูดอากาศสดชื่นเท่านั้น

แต่ลดกระจกลงเพื่อให้ได้ยินเสียงแตรนั้นเอง

.

เส้นทางในการขึ้น-ลงเขา เป็นพื้นที่โค้งและแคบ แถมติดกับหน้าผาหรือเขาสูง การให้รถฝั่งใดฝั่งหนึ่งผ่านเส้นทางนั้นไปก่อนหรือสลับกันไปทีละคันถือเป็นความมีน้ำใจและสร้างความปลอดภัยได้มากที่สุด

ขับรถขึ้น-ลงเขา ต้องรู้จักกฏจราจร มารยาทในการใช้ถนน และมีน้ำใจให้แก่เพื่อนร่วมทาง เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและคนรอบข้างนะครับ