Home / Product knowledge

คราวที่แล้วเราแนะนำให้อย่าเสี่ยงหรืออย่าฝืนลุยน้ำ รวมถึงหลีกเลี่ยงเส้นทางที่น้ำท่วมขัง แต่ถ้าใครหลีกเลี่ยงไม่ได้มีเหตุจำเป็นจริงๆที่จะต้องไปทางนั้น เราจะมาแนะนำ...

เคล็ด(ไม่)ลับ ขับรถฝ่าน้ำท่วม

- ปิดระบบแอร์ในรถทันที

เพราะหากเปิดแอร์ไว้ ตัวพัดลมยังคงทำงานอยู่ อาจทำให้น้ำเข้าห้องเครื่องหรือระบบไฟฟ้าได้ เนื่องจากใบพัดจะพัดน้ำหรือหมุนตีน้ำจนน้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง จนอาจเกิดไฟช็อตและทำให้เครื่องยนต์ดับได้ รวมถึงมีความเสี่ยงที่ใบพัดจะแตกหรือหักจากการโดนเศษต่างๆที่มากับน้ำ เช่น กิ่งไม้ เศษขยะจนทำให้เกิดความเสียหายอีกด้วย

- ให้ใช้เกียร์ต่ำ

สำหรับเกียร์ธรรมดาใช้แค่เกียร์ 1 หรือ 2 ส่วนเกียร์ออโต้ให้ใช้เกียร์ L หรือ 1 (ไม่ว่ารถจะรุ่นอะไรให้ใช้เกียร์ต่ำสุดของรถแต่ละรุ่น) ที่ต้องใช้เกียร์ต่ำเพราะจะได้ง่ายต่อการเบรก และควรรักษาความเร็วรถเอาไว้อย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้รถยนต์ดับ

- อย่าเร่งรอบเครื่องสูงๆ- 

- ควรรักษารอบเครื่องเอาไว้ที่ประมาณ 1,500 – 2,000 รอบ

- หากรอบเครื่องต่ำกว่านี้เครื่องอาจจะดับ หรือ หากรอบเครื่องสูงกว่านี้ก็อาจดูดน้ำและอากาศเข้าเครื่องได้

หลายคนกลัวน้ำเข้าท่อไอเสีย หรือกลัวเครื่องจะดับเลยมักจะเข้าใจผิด คิดว่าเร่งเครื่องจะช่วยไม่ให้รถดับได้ หรือเร่งเพื่อให้ขับผ่านน้ำท่วมไปเร็วๆ แต่จริงๆแล้วนี่เป็นความคิดที่ผิด

- การเร่งเครื่องให้สูงขึ้น ยิ่งทำให้อุณหภูมิของเครื่องยนต์สูงขึ้น พัดลมระบายความร้อนก็จะทำงาน ทำให้ใบพัดหมุนน้ำเข้ามา ซึ่งอาจเกิดไฟช็อตและทำให้เครื่องยนต์ดับได้เหมือนกับในข้อแรก

- รักษาระยะห่างจากคันหน้าให้มากกว่าปกติ

เพราะระบบเบรกมีประสิทธิภาพในการทำงานลดต่ำลง เนื่องจากจมอยู่ในน้ำ หากต้องเบรกกระทันหัน หรือเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น จะได้มีระยะเบรกที่ปลอดภัย

- ขับรถสวนกันให้ลดความเร็วลง

เพราะเวลาขับรถสวนเลนกัน คลื่นน้ำของแต่ละฝั่งจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นและเกิดแรงปะทะกัน ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อห้องเครื่องหรือระบบภายในได้

- นี่เป็นเคล็ด(ไม่)ลับ หากใครที่ต้องขับรถฝ่าน้ำท่วม อย่าลืมนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กัน เพื่อลดความเสี่ยงเครื่องยนต์ดับและเพิ่มความปลอดภัยให้กับรถของเรา