Home / Product knowledge
4 ขั้นตอนต้องทำ หลังลุยน้ำท่วม!
ขับรถลุยน้ำ ถ้าระดับความสูงของน้ำไม่เกินครึ่งล้อรถ (ประมาณ 30 ซม.) ยังไม่เป็นไร
แต่อย่าพึ่งวางใจ! น้ำอาจซึมเข้าระบบเครื่องยนต์ได้
เพื่อความปลอดภัย และป้องกันปัญหาหลังลุยน้ำท่วม
แนะสิ่งที่ต้องทำเมื่อรถจอดสนิทแล้ว
- อย่า! เพิ่งรีบดับรถ
ควรติดเครื่องไว้ก่อนสักพักประมาณ 20 นาที เพื่อให้ความร้อนของเครื่อง ไล่น้ำออกจากหม้อพักท่อระเหยออกมา เพราะอาจมีน้ำตกค้างอยู่ข้างใน และไม่ต้องตกใจหากมีไอหรือควันออกมาจากท่อไอเสีย เพราะมันคือน้ำที่ระเหยออกมานั่นเอง
- ย้ำเบรกบ่อยๆ
เพื่อไล่ความชื้นในผ้าเบรก ควรย้ำเบรกบ่อยๆ ป้องกันการเบรกแล้วลื่น สำหรับเกียร์ธรรมดาให้ย้ำคลัตช์ เพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น ถ้าไม่ทำการย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำออกจากระบบ จะทำให้เบรกไม่อยู่ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก
- ตรวจเช็คการรั่วซึมของน้ำ
เปิดผ้ายาง/แผ่นยางรองพื้นรถ ดูว่าเปียกชื้นหรือมีน้ำซึมเข้ามามั้ย หากเจอรอยคราบน้ำหรือมีน้ำซึมเข้ามา แนะนำว่าควรรื้อพรม/แผ่นยาง รวมถึงพรมบริเวณอื่นๆภายในรถออกมา ซักทำความสะอาด และผึ่งหรือเป่าให้แห้งสนิท เพื่อระบายและป้องกันกลิ่นเหม็นอับและเชื้อรา รวมไปถึงการเจริญเติบโตของแบคทีเรียต่างๆ
- ตรวจเช็คของเหลวทั้งหมด
ดูสีของน้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเฟืองท้าย ว่าเปลี่ยนไปหรือไม่ ถ้าน้ำมันเหล่านี้เปลี่ยนสีมีลักษณะคล้ายสีของชาเย็น หรือออกน้ำตาลๆ เป็นไปได้ว่าน้ำอาจจะปะปนซึมเข้าไป ทางที่ดีควรจะเปลี่ยนถ่ายระบบของเหลวทั้งหมด
เมื่อสีน้ำมันเกียร์เป็นสีชาเย็น "ควร" เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทันที หากปล่อยเอาไว้นานวันเข้าน้ำมันเกียร์ที่เสื่อมสภาพจากการมีน้ำเข้ามาปะปนจะทำให้เกียร์มีอายุสั้นลง
อย่าคิดว่า "ไม่เป็นไรหรอก" เพราะนี่แหละจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์เสียหายอย่างมากถึงขั้นเกียร์พัง ซึ่งอาจจะทำให้เราต้องเสียค่าซ่อมในหลักหมื่นหรือบางทีอาจจะถึงหลักแสน
รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมดูแลรถ ดูแลเกียร์ ใจไม่เพลีย เกียร์ไม่พัง อีกทั้งยังไม่เสียเวลาและเสียสตางค์ พร้อมออกไปลุยได้อย่างปลอดภัย