4 วิธีลุยน้ำไม่ให้รถดับ!!

ลุ้น “ผลบอล” กันจบแล้ว , ไม่แคล้ว ต้องมาลุ้นกับ “ระดับน้ำ”

หลายวันมานี้ประเทศไทยมีพายุพัดผ่าน ทำให้ฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้หลายพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากและแน่นอนว่าสภาพที่

“น้ำรอการระบาย” อย่างในกรุงเทพฯ

ยิ่งฝนตกหนัก น้ำก็ยิ่งท่วมสูง ถนนหลายเส้นเรียกได้ว่าแทบจะกลายสภาพเป็นคลองขนาดย่อม

บางพื้นที่ระดับน้ำมีปริมาณท่วมสูงจนกระทั่งรถไม่สามารถขับต่อไปได้ หรือขับต่อไปแล้วเครื่องยนต์เกิดอาการดับกลางทาง ถ้าอย่างนั้นเราจะมีวิธีการรับมืออย่างไร ?

วิธีปฏิบัติเมื่อรถยนต์ของคุณเกิดอาการ “เครื่องยนต์ดับ”

1) อย่าฝืนสตาร์ทรถเด็ดขาด

ลองสตาร์ทรถดูครั้งนึงโดยที่ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง เพื่อดูว่ารถสตาร์ทติดมั้ย ถ้าไม่ติดอย่าฝืนสตาร์ทต่อเด็ดขาด เพราะหากฝืนสตาร์ทต่อก็จะยิ่งทำให้น้ำเข้าไปท่วมเครื่องยนต์ จนเกิดความเสียหายถึงขั้นต้องยกเครื่องเปลี่ยนใหม่หมด

2) รีบเข็นรถให้พ้นน้ำ

รีบเข็นหรือลากรถไปบนพื้นที่แห้ง ที่สูง หรือที่ลาดเอียง เพื่อเทน้ำออกจากตัวรถ ไม่ให้น้ำสร้างความเสียหายกับตัวรถไปมากกว่านี้

3) จัดการรถเบื้องต้น

เมื่อรถอยู่บนพื้นที่แห้งแล้ว ให้เปิดฝากระโปรงรถและปลดขั้วแบตเตอรี่ออก รวมถึงปลดอุปกรณ์ที่เป็นขั้วไฟฟ้าและปลั๊กไฟทุกตัวในห้องเครื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟเข้าไปเลี้ยงระบบต่างๆของรถ และจะยิ่งทำให้เครื่องยนต์เสียหายมากขึ้น

4) ยกรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ 

ติดต่อช่างให้นำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ เพื่อให้ช่างดำเนินการตรวจสอบระบบภายในอย่างละเอียดก่อนนำรถไปใช้งาน

.

4 ขั้นตอนนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในยามที่ต้องเผชิญกับปัญหาเครื่องยนต์ดับขณะขับรถลุยน้ำ

การขับรถฝ่าน้ำท่วมเราจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเครื่องยนต์ไม่ใช่เรือยนต์ ระบบภายในต่างๆของรถ ไม่สามารถเผชิญกับระดับน้ำที่ลึกหรือท่วมขังสูงได้ ถ้าหากไม่อยากเสียเงินเพื่อซ่อมรถ หรือต้องยกเครื่องใหม่ เป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่น้ำท่วม อย่าเสี่ยงหรืออย่าฝืนลุยน้ำจะดีที่สุด