พฤติกรรมเสี่ยงเกียร์น็อค!

...การใช้ความเคยชินในการขับขี่ ทำให้รู้สึกสบายก็จริง แต่ในอีกแง่นึง พฤติกรรมดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ภายในรถ โดยเฉพาะเกียร์ มาดูกันว่าพฤติกรรมใดบ้างที่จะบั่นทอนอายุเกียร์ให้สั้นลง!!

- การคิกดาวน์เป็นประจำ จะทำให้ชุดเกียร์ต้องรับแรงบิดกะทันหันบ่อย นี่เป็นสิ่งกระตุ้นให้อายุการใช้งานเกียร์สั้นลง วิธีแก้ไขคือ ควรเว้นระยะในการแซงให้มากขึ้น

- ไม่ใช้เบรกมือเมื่อจอดรถทางลาด เมื่อเปลี่ยนมาที่เกียร์ P รถจะยึดน้ำหนักทั้งหมดเอาไว้เพื่อให้อยู่กับที่ ซึ่งไม่ส่งผลดีกับเกียร์ วิธีการแก้ไขคือ ดึงเบรกมือขึ้นเมื่อจอดรถบนทางลาด จะสามารถช่วยลดภาระที่มากเกินไปของเกียร์ได้

- ใช้เกียร์ลดความเร็ว เปลี่ยนจากเกียร์ D มา N จะเร่งการสึกหรอให้กับเกียร์อัตโนมัติ โดยเฉพาะส่วนที่มีการเสียดสีและส่วนในการส่งกำลัง วิธีแก้ไขคือ ถ้าต้องการหยุดหรือลดความเร็วควรใช้เท้าแตะเบรกแทน

- เปลี่ยนเกียร์ก่อนรถหยุดสนิท การเปลี่ยนเกียร์เร็วเกินไปในขณะที่รถยังไม่หยุดสนิท จะกระทบระบบส่งกำลังของรถโดยตรง วิธีแก้ไขคือ ควรรอให้รถถหยุดสนิทก่อนจึงค่อยเปลี่ยนเกียร์

- เร่งเครื่องรอแล้วใส่เกียร์ D เร่งเครื่องยนต์รอ แล้วใส่เกียร์ D เพื่อให้รถพุ่งไปข้างหน้า ในระยะยาวจะทำให้ชุดเกียร์และเพลาขับเกิดความเสียหาย รวมทั้งเป็นการบั่นทอนอายุการใช้งานของระบบเกียร์ด้วย

- ปล่อยรถไหลแล้วใส่เกียร์ N เมื่อเปลี่ยนเกียร์ไปยังตำแหน่ง N จะทำให้ปั๊มน้ำมันเกียร์ไม่วนขึ้นมาหล่อลื่น ส่งผลให้เกิดความร้อนมากกว่าปกติ และในระยะยาวอาจทำให้ฟันเฟืองต่างๆ เกิดความเสียหายได้

-เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ไม่ตรงตามระยะที่กำหนด ปกติแนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ที่ระยะ 20,000 บวกลบได้นิดหน่อยขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่ไม่ควรเกินจากนี้ไปมากนัก เพราะหากน้ำมันเกียร์เกิดความสกปรก ก็สามารถทำให้อายุการใช้งานของเกียร์สั้นลงได้